TC 100 สนามเปิดฤดูกาล 2019 จอมบึง ถึง กาญนะจ๊ะ
Start : มหาวิทยาลัยราชภัฏ จอมบึง ราชบุรี
Time : 0700 น. 0715 น. 0730 น.
Hi Light : ต้นจามจุรียักษ์ วัดถ้ำเสือ วัดถ้ำเขาน้อย ร้านกาแฟมีนา
Concept Bike Road : ท่องเที่ยวเชิงกีฬา มากับ TC100
Elevation : 457 M ปั่นจอมบึง เลาะสวนผึ้ง ถึงเมืองกาญจน์ ทางใหม่ร่มรื่น ราบเรียบ สวยงาม รับลมหนาวของสวนผึ้ง
Grade : Normal ระดับสนามธรรมดา
เปิดฤดูกาล 2019 ด้วยเส้นทางสายใหม่ สลับกับถนนดั้งเดิมทั่วไปที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวัน
TC100 จะพาเพื่อน ๆ ไป เริ่มออกตัวที่ ม.ราชภัฎ” จอมบึงที่คุ้นเคย เลาะเลียบเฉียดสวนผึ้ง ผ่านเส้นทางหลัก “จอมบึงมาราธอน” มุ่งหน้าไปกาญจนบุรี ด้วยจักรยาน เส้นทางสวยงาม รับอากาศเย็น ๆ ของสวนผึ้ง ในฤดูปลายฝนต้นหนาว ชมต้นไม้ 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ ของเมืองไทย
ต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 100 ปี ขนาด 10 คนโอบ มีพื้นที่ร่มเงาใหญ่กว่า 1 ไร่ กิ่งก้านสาขาสวยงามร่มรื่น
วัดถ้ำเสือ ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี มีชื่อเสียงเลื่องลือในความสวยงามของพระรูปองค์ใหญ่หลวงพ่อชินน์ประทานพร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516 และ “พระเจดีย์เกตุแก้วมหาปราสาท” เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสีส้ม มีทั้งหมด 9 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย หายเหนื่อยกับวิวจากช่องหน้าต่างของพระเจดีย์ เห็นแม่น้ำแม่กลอง ภูเขา ท้องทุ่งนา และวัดถ้ำเขาน้อย ซึ่งอยู่ติดกัน
เส้นทางผ่าน “ร้านกาแฟมีนา” ที่คนแน่นเหมือนกับแจกฟรี กาแฟรสชาติดีราคาติดดิน เลยมาอีกนิดช่างภาพสนามรอเก็บภาพมีหลังฉากเป็น “วัดถ้ำเสือ”
TC 100 สนามแรก ของฤดูกาล 2019 “TC 100 จอมบึง ถึง กาญนะจ๊ะ”
จำนวนรับสมัคร 600 คน ไม่รวมกลุ่ม Exclusive ที่สมัครล่วงหน้าแล้ว
1. สมัครรายสนาม ค่าสมัคร 500 บาท ไม่รวมค่าธรรมเนียมของ Thaimtb
การปล่อยตัว
สามารถเลือกเวลาออกตัวได้เมื่อสถานะเปลี่ยนเป็น สมัครสำเร็จ/ชำระเงินแล้ว
กลุ่ม A ปล่อยตัวเวลา 07.00 น. รับจำนวน 200 ท่าน
กลุ่ม B ปล่อยตัวเวลา 07.15 น. รับจำนวน 200 ท่าน
กลุ่ม C ปล่อยตัวเวลา 07.30 น. รับจำนวน 200 ท่าน
2. สมัคร 5 สนาม ค่าสมัคร 2,700 บาท ไม่รวมค่าธรรมเนียม
กำหนดการ และสิทธิประโยชน์ ผู้สมัครกลุ่ม Exclusive
• สนามเปิดฤดูกาล วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ที่เมืองโอ่ง ราชบุรี เมืองดีน่าเที่ยวที่หลายท่านมองข้าม
• สนาม 1 วันที่ 20 มกราคม 2562 มวกเหล็ก รับลมหนาวในบรรยากาศขุนเขา
• สนาม 2 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 อ่างทอง เมืองน้องใหม่ที่ไปปั่นหนึ่งได้ถึงสาม
• คั่นเวลาด้วย Special Trip เอาใจสมาชิกชาว TC100 Exclusive Special นำทุกท่านไปเยือนเมืองมหาสารคาม พระธาตุนาดูน วันที่ 2-3 มีนาคม 2562
• สนาม 3 วันที่ 26 พฤษภาคม 2562 นครนายก สนามดั่งเดิมที่ยังมีเสน่ห์แอบซ่อน รอการค้นหาจากเพื่อนนักปั่น
• สนาม TC 100 Cycling Camp and Family Fair 20-21กรกฎาคม 2562 สัตหีบ สนามสังสรรค์กับเส้นทางที่เป็นดั่งสวรรค์ของนักปั่นในทุกแนว
• สนามปิดฤดูกาล 22 กันยายน 2562 เพชรบุรี เมืองคู่ขนานบนสายธารประวัติศาสตร์ร่วมสมัยอโยธยาที่หลายท่านคาดไม่ถึง ยืนยงผ่านกาลเวลามาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์
**ลำดับสนามและกำหนดวันปั่นอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม และ จะแจ้งล่วงหน้าให้ท่านนักปั่นทราบล่วงหน้าเป็นระยะๆครับ***
สิทธิเพิ่มเติม
1. เสื้อ Jersey ประจำปี 2019 ส่งให้ถึงบ้านหลังจบงานปั่น เลือกได้ 8 สีหลัก
2. ป้ายประจำตัวติดจักรยานใช้ได้ทั้ง 5 สนาม ตลอดปี เลือกหมายเลขพิเศษได้ ถ้ายังไม่มีใครใช้
3. สิทธิเดินทางร่วมงานฉลองพระธาตุนาดูน มหาสารคาม วันที่ 2 - 3 มีนาคม 2562 มูลค่าต่อท่าน 1,800 บาท รวมค่าพาหนะเดินทางพร้อมจักรยาน อาหาร โรงแรมที่พัก ของที่ระลึกจากผู้สนับสนุนรายการ เข้าร่วมกิจกรรมปั่น ทั้งหมดจ่ายเพียง 400 บาท
4. สิทธิเข้าร่วมงาน TC 100 Cycling Camp and Family Fair ชำระค่าสนามเพียง 200 บาท
5. ออกตัวได้ทุกเวลา เมื่อพร้อม
ใช้จักรยานได้ทุกชนิด
วันลงทะเบียนล่วงหน้า บางสนามมีบริการตรวจจักรยาน
มีร้านค้าอะไหล่และ Accessories ของจักรยาน ไว้ให้พอประมาณ
นักปั่นควรเตรียมจักรยานให้พร้อม ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม
มือใหม่สอบถามได้ที่ โทร 086 495 3011
งานบริการ
ทีม งานจราจรดูแลความปลอดภัย
ทีม Marshall ปั่นไปพร้อมกัน
ทีมซ่อมบำรุงในเส้นทาง
ป้ายบอกทาง รถ Service
ทีมเก็บปิดท้าย ประกันภัยจาก AIG
ทีมช่างภาพ สื่อประสานงาน
สมัครแล้วแจ้ง ID Line เพื่อเชิญเข้ากลุ่ม Line Square TC100 สนามจอมบึง
โดย Add ID Line พี่ชานลเข้าไปก่อน แล้วจึงจะดึงเข้ากลุ่มได้ครับ
หรือใช้ Line@TC100 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การติดตามความเคลื่อนไหวของงาน และข่าวสารเพิ่มเติม
Update ความเคลื่อนไหวของกิจกรรม กดติดตามได้ที่ facebook/tcrandonneurs
Update จากผู้ให้บริการรับสมัคร มีปัญหาการสมัคร สอบถามที่ ThaiMTB.com โทร : 086 379 3440
หรือ Line@event.thaimtb
ป้ายบอกทาง Version ใหม่ ขนาดใหญ่ชัดเจนไม่มีหลงทาง ลูกศรสีแดง
สังเกตพื้นหลัง เที่ยวไปสีฟ้า
เที่ยวมาสีเหลือง
ใกล้ถึง สีเขียว
ปั่นไปพักไปทุกระยะ 30 – 40 กิโลเมตร บางสนามพักตามตลาดชาวบ้าน หรือมีชุมชนมาให้การดูแลต้อนรับ
ปั่นจักรยานกับ TC100 ได้เพื่อน ได้เที่ยว ได้สุขภาพ ได้ชุมชน ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ได้ผ่านบ้านผ่านเมือง มองเมืองไทยด้วยสายตาบนหลังอาน
พี่ชานล
Tแนะนำตัว TC 100 สำหรับเพื่อนนักปั่นที่จะเข้ามาร่วมกันเป็นครอบครัวของเรา “ครอบครัว TC100”
สิ่งที่เราเป็น
TC100 เป็นชื่อที่เกิดมาจากความคิดของผมเอง (ชานล เพ็ชรฉ่ำ) กับการประชุมร่วมกันของสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย ที่สุดท้ายผมมีตำแหน่งเป็น อุปนายกสโมสร ได้ประชุมกัน เพื่อสร้างกิจกรรม และหาชื่อที่สั้น กระชับ ง่าย ตรงประเด็น มีกรรมการท่านหนึ่งในที่ประชุมได้โพล่งคำนี้ออกมาจากที่ประชุม ชื่อที่เราพูดกันมาหลายชื่อด้วยกัน สรุปว่าคำ TC100 ใช้ได้ดี และเราก็สร้างกิจกรรมผ่านชื่อนี้มามากกว่า 3 ปี จนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
ในยุคที่การปั่นจักรยานกำลังเฟื่องฟู มีหลายคนถามผมว่า TC100 ย่อมาจากคำว่าอะไร? แวบแรกที่โผล่เข้ามาในความคิดคือ ชื่ออะไรก็ช่าง สำคัญในแนวคิดที่ต้องการจะสร้างสรรค์ชุมชนจักรยานที่แท้จริงสำหรับเพื่อนนักปั่น ให้ทุกคนเข้าใจใน”วิถี”ของการปั่นจักรยานที่ไม่ได้ยึดติดอยู่กับ จักรยานที่ใช้ ความเร็ว ระยะทาง หรือ อะไรก็ตามที่จะเอามาวัดกันว่า “แน่” หรือ “เจ๋ง”กว่ากัน แต่หัวใจของการปั่นจะเป็นเรื่อง ของมิตรภาพ วินัย น้ำใจนักกีฬา สุขภาพ และ ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ผมเคยตอบทีเล่นทีจริงไปว่า TC ย่อมาจาก Thai Cycling ส่วนเลข 100 มาจากความยาวของเส้นทางปั่น เหตุที่ผมเลือกระยะทาง 100 เป็นระยะหลัก เพราะด้วยระยะทางที่ยาวและนานพอที่จะหล่อหลอมให้เรียนรู้ “หัวใจ” ของการปั่น ผ่านความมุ่งมั่น มานะ พยายามที่จะข้ามผ่านระยะทางนี้ไปให้ได้ด้วยหัวใจของนักปั่นอย่างแท้จริง
ในปี 2559 ผมตัดสินใจที่จะให้ชื่อ สโมสรจักรยานทางไกลไทย คู่ไปกับ TC100 เพื่อวางรากฐานการขับเคลื่อนงานปั่นจักรยานไปสู่การยกมาตรฐานที่ดีกว่าเดิม หลีกหนีการทำกิจกรรมที่ฉาบฉวย เฉพาะกิจ ไปสู่การสร้างคนที่มีคุณภาพผ่านกิจกรรมเชิงกีฬา เพื่อให้สมาชิกได้กลับไปเป็นกำลังสำคัญพลิกฟื้นคุณภาพเชิงสังคมให้กับประเทศไทยของเรา และผมหวังว่าเมื่อนักปั่นที่ก้าวข้ามระยะทาง ข้ามคำว่าปั่นระยะ 100 กิโลเมตรได้บ่อย ๆ เมื่อขับรถยนต์ไปเห็นป้ายบอกระยะทางต่าง ๆ จะคิดถึงจักรยานเสมอ และรู้ได้เองว่าสามารถปั่นมาได้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ และสักวันเมื่อกลุ่มคนเหล่านั้นเติบโตขึ้นในอีก 20 – 30 ปีข้างหน้า เป็นผู้บริหารจะทำให้ สังคมจักรยาน และการเดินทางด้วยจักรยานเป็นจริง หรือใกล้ความจริงเข้าไปอีก 1 ระดับ ยุโรปพัฒนามามากกว่า 180 ปี กว่าจะเป็น “เมืองจักรยาน” ได้ ของเรายังมีเวลา ฝากไว้กับคนรุ่นใหม่ด้วยครับ
สิ่งที่เราทำ
จากจุดเริ่มต้นในความคิดที่ต้องการจะสร้างคนคุณภาพให้กับสังคม ผมอยากบอกทุกคนว่า สโมสรจักรยานทางใกล ได้ผ่านห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจนตกผลึกทางความคิดออกมาเป็นรูปแบบกิจกรรมจักรยานที่หลากหลายและเชื่อมโยงในหลายมิติ เริ่มจากมิตินักปั่นที่ต้องพัฒนาตนเองก่อนด้วยแนวปรัญชาที่ว่า “กำลังกายที่สมบูรณ์ นำให้เกิดปัญญาและความเพียร” ผ่านรูปแบบงานปั่น เริ่มจาก ท่องเที่ยวเชิงกีฬา ไปสู่ ผจญภัยเชิงกีฬา รวมไปถึง ทดสอบสมรรถนะตนเอง เพื่อให้นักปั่นเติบโตจากภายใน บ่มเพาะให้แข็งแรงและงอกงามทางความคิด จิตใจ รวมถึงการสร้างวินัยในตนเองผ่านระดับความยากง่ายของการปั่นจากเบาไปหาหนัก
เมื่อมิตินักปั่นเพาะบ่มจนสมบูรณ์แล้ว มิติชุมชน จะเป็นมิติถัดไปที่สโมสรฯได้รังสรรค์ให้นักปั่นได้เรียนรู้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำประโยชน์คืนให้กับชุมชนที่ได้มาปั่นจักรยาน สร้างจิตสาธารณะและสำนึกของการมีส่วนร่วมกับชุมชนให้กับนักปั่น ส่งเสริม “เศรษฐกิจชุมชนระดับรากหญ้า” ผ่านการใช้จ่ายของนักปั่นในแบบ Co Payment หลีกเลี่ยงการสร้างมลภาวะรวมถึงธำรงค์ไว้ซึ่งวิถีชีวิต วัฒนธรรม และ สิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน
ผ่านจากมิติชุมชน นักปั่นจะได้ค้นพบตัวเองในมิติที่ขยายไปสู่ระดับประเทศ ด้วยความตั้งใจของสโมสรฯที่จะส่งให้นักปั่นร่วมเป็นพลังที่จะสรรสร้างความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ ผลักดันให้เมืองไทยของเราก้าวสู่ Sport & Adventure Tourism ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย ทั้งในแผนฉบับที่ 1 (พ.ศ.2558-2560) และฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560- 2564) และในปี พ.ศ.2559 การท่องเที่ยวเชิงกีฬาได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท และเราคือหนึ่งในพลังที่ขับเคลื่อนความสำเร็จนั้นและมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป
สิ่งที่เราหวัง
ถ้าจะมีสักสิ่งที่จะพอหล่อเลี้ยงชีวิตของคนที่คลุกคลีและมีใจรักใน “อะไร” สักอย่าง ผมอยากนิยามสิ่งนั้นว่า “ความหวัง” จากวันแรกที่ผมเริ่มต้นในแวดวงชาวจักรยานและมุ่งหวังที่อยากจะเห็นสิ่งๆหนึ่งปรากฏขึ้นเป็นปรัชญาหรือวิถีที่ดีงามในหมู่นักปั่น ผมนิยามสิ่งนั้นไว้ว่า “อริยะจักรยาน”ครับ
ถ้า “อริยะจักรยาน” เป็นปรัชญาหรือวิถี สิ่งที่ผมหวังและอยากจะส่งผ่านความหวังนั้นไปสู่นักปั่นทุกคนคือ ภาพที่จักรยานเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้ทาง สอดคล้องและกลมกลืนไปกับชีวิตประจำวัน เป็นการเดินทางสัญจรที่สังคมยอมรับ ถ่ายทอดความมีวินัย ความอดทนและการพึ่งพาตนเองจากการปั่นจักยานด้วยกำลังกาย ไปสู่การประยุกต์ใด้จริงในชีวิตประจำวันและดำรงค์ตนในสังคมได้อย่างมีแก่นสาร ส่งผ่านความมีน้ำใจ ความเสียสละ ความเอื้อเฟือเกื้อกูลจากอุปนิสัยของนักปั่นที่พึงมีต่อเพื่อนร่วมทาง ไปสู่ทุกคนที่รายล้อมรอบๆตัวในสังคม ขยายวงกว้างออกไปจนถ้วนทั่วทั้งสังคม แต่จะเป็นได้ดังหวังหรือไม่นั้น ไม่แน่ว่าคำตอบสุดท้ายอาจอยู่ใน “ใจ” ของท่านทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ว่าจะตอบอย่างไร
บทส่งท้าย
จากชื่อที่ท่านรู้จัก หรือ จากกิจกรรมที่ท่านได้สละเวลามาร่วมสัมผัสเป็นประสบการณ์ผ่านไปในสองสามปีที่ผ่านมา ผมหวังว่าการขยายกระจายภาพที่เป็นตัวต้นของ “สโมสรจักรยานทางไกลไทย” และ TC100 จะนำมาซึ่งความเข้าใจในตัวตน เจตนาและความมุ่งหวังที่บริสุทธิ์ใจและรอท่านมาพิสูจน์ยืนยันด้วยวินัจฉัยอันเป็นอิสระของท่านเอง รูปแบบและการนำเสนอกิจกรรมอาจสลับสับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัยแต่ไม่ละทิ้งความคิดและความตั้งใจแต่แรกที่จะสร้างสรรค์ “ครอบครัว”จักรยานที่ท่วมท้นไปด้วยความอบอุ่น มิตรภาพ ด้วยสังคมคุณภาพที่ทุกคนมีส่วนร่วมสร้างมาด้วยกัน
ผมทิ้งท้ายด้วยการนำเสนอรายละเอียดในเชิงลึกถึงที่มาที่ไปของการจัดกิจกรรม ฝากเป็นเครื่องเคียงให้ท่านได้ใกล้ชิดและรู้จักกันให้มากขึ้นไปอีก เผื่อว่า วันหนึ่งได้ร่วมวงกันจะได้ไม่โดนเพื่อนอำให้ขำกันรอบวง
จากใจ......พี่ชานล
บทสรุปวิถีของกิจกรรม
TC100 คือ สโมสรจักรยานทางไกลไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2559 กิจกรรมของ TC100 เน้นนโยบาย “จักรยานเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้ทาง” จึงไม่มีการปิดถนนปั่น หรือมีรถคอยตามตลอดเวลา และเนื่องด้วยกิจกรรมของ TC100 มีเพื่อนนักปั่นเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก จึงมีระบบการแบ่งปล่อยตัวเป็นชุด ห่างกันพอประมาณชุดละ 15 นาที เพื่อมิให้เป็นที่เดือดร้อนของผู้ใช้ทางอื่น ๆ เป็นการกระจายการสัญจร ให้ใช้ถนนร่วมกันอย่างมีความสุข ให้สังคมจักรยานเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ทางอื่น ๆ เส้นทางจักรยานที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางรอง มีความปลอดภัยในการสัญจรตามเส้นทางร่วมกับพาหนะชนิดอื่น ยกเว้นมีความจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากหน่วยราชการในพื้นที่เสมอมา
TC100 ส่งเสริม “เศรษฐกิจชุมชนระดับรากหญ้า” ด้วยการจัดหาอาหารดัง อาหารเด่น อาหารชวนชิม ในพื้นถิ่น มาให้นักปั่นได้ช่วยกันสนับสนุนในราคาแบบ Co Payment ร่วมกันจ่ายในราคาที่เหมาะสมเป็นธรรมทั้งผู้ให้และผู้รับ ผลจากนโยบายนี้ ทำให้นักปั่นจักรยานเป็นที่รักของชุมชนทุกแห่งที่ชาว TC100 ได้ผ่านไป จนมีเสียงเรียกร้องจากทั่วประเทศให้เราไปเยือน
TC100 เน้นวิถีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัด มีคุณธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และวินัยในการดำรงตนอย่างเป็นธรรมชาติ รักและดูแลช่วยเหลือกันและกันในเส้นทาง เพียงสถานะเป็นนักปั่นด้วยกันเท่านั้นก็จะได้รับความเอื้ออาทรต่อกันและกันโดยธรรมชาติ มิตรภาพบนหลังอานหาได้ทั่วไปในสังคม TC100
กิจกรรมหลัก ๆ ของสโมสร ฯ ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ภาคหลัก
1. ภาคส่งเสริมการท่องเที่ยว เสริมสร้างให้เป็นนักปั่นที่ดีและมีคุณภาพ
a. กิจกรรม “ท่องเที่ยวเชิงกีฬา” มีเหรียญที่ระลึกประจำสนามต่อเรียงกันเป็นชุด 5 เหรียญ อาจมีเหรียญพิเศษกับสนามพิเศษ หรือโอกาสพิเศษให้อีก 1 เหรียญ เป็นรายแรกในเมืองไทยที่ใช้เหรียญลักษณะนี้
b. กิจกรรม “ผจญภัยเชิงกีฬา” เพื่อตอบสนองเพื่อนนักปั่นที่ชอบแนวโลดโผนท้าทายความสามารถที่ซ่อนเร้นแอบลึก เช่น “ปั่นติดปีก Ride to the Wing”
c. กิจกรรม “ทดสอบสมรรถนะตนเอง” เป็นกิจกรรมต่อยอดจากการปั่น “ท่องเที่ยวเชิงกีฬา” เป็นการปั่นที่ต้องใช้ทักษะที่เกี่ยวกับการใช้จักรยาน ใช้อุปกรณ์เสริม ระยะทางที่มากกว่า 100 กิโลเมตร ปั่นขึ้นเขา ใช้ทักษะมากกว่าการปั่นทั่ว ๆ ไป เช่น “TC100 Extreme” “100 Miles” “TC100 KOR King of rolling” “ปั่นโจรสลัด 6 เขา 6 อ่าว” “ปั่นนกฮูก การปั่นในเวลาค่ำคืน” เป็นต้น
2. ภาคสนับสนุนช่วยเหลือสังคมและมีส่วนร่วมกับหน่วยงานราชการทั่วไป เช่นการปั่นร่วมรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเทศกาลต่าง ๆ การปั่นหาทุนเพื่อการกุศล เช่น ปั่น Charity ประจำปี ปั่น Fundraisings กองทุนสนับสนุนคนมีความสามารถ หรือกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ “ปั้นล้อเล็กเป็นดารา ช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว”
ปัจจุบันสโมสร ฯ มีกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานของรัฐและเอกชนมากมาย อยู่เบื้องหลังของกิจกรรม “ท่องเที่ยวเชิงกีฬา” ในส่วนของกีฬาจักรยานทั่วประเทศ ตอบสนองนโยบายหลักของรัฐ และมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เมืองไทยเป็น Sport & Adventure Tourism ให้การท่องเที่ยวเชิงกีฬาเป็นแนวทางการพัฒนา ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย ทั้งในแผนฉบับที่ 1 (พ.ศ.2558-2560) และฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560- 2564) และในปี พ.ศ.2559 การท่องเที่ยวเชิงกีฬาได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท
แนวทางในการปั่น
การเร็วในการปั่นใช้ค่าเฉลี่ยที่ 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มือใหม่มาปั่นในระยะ 100 กิโลเมตรในระยะเวลา 7.50 ชั่วโมงได้โดยไม่ยากจนเกินไป ใคร ๆ ก็ปั่นได้ ออกแบบสนามให้เป็นการปั่นในโซน 2 เป็นส่วนใหญ่ ตามหลักการของ “การท่องเที่ยวเชิงกีฬา” ท่านที่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็จะมีเวลาเพลิดเพลินในการเที่ยวชม เที่ยวชิม ตามสถานที่ต่าง ๆในเส้นทาง เหรียญที่ระลึกของแต่ละสนาม ทีมงานให้เกียรติคล้องเหรียญแห่งชัยชนะให้กับทุกท่าน และเมื่อสะสมเหรียญจนครบในแต่ละปีก็จะนำมาต่อร้อยเรียงเรื่องราว เพื่อการชื่นชมรำลึกได้เสมอ เมื่อนำมาดู และจัดทำกล่องใส่เพื่อให้เก็บเป็นระเบียบสวยงาม
การจัดหาเส้นทาง
TC100 คำนึงถึงประโยชน์ของนักปั่น และชุมชนที่เราผ่านไปก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ ด้วยนโยบาย “ปั่นไปแล้วชุมชนได้อะไรบ้าง” เส้นทางต้องมีความปลอดภัย เอื้อต่อการเข้าช่วยเหลือนักปั่นที่เกิดเหตุโดยไม่คาดฝันหรือต้องการความช่วยเหลือในระหว่างปั่น จัดประกันภัยให้กับทุกท่านด้วยบริษัทมาตรฐาน (AIG International Assurance) มีตัวแทนดูแลอย่างต่อเนื่อง มีทีมงานหน่วยพิเศษ (ninja) ร่วมปั่นและดูแลตลอดเส้นทาง มีทีมงานพิเศษ (Sweeper) ดูแลจนคนสุดท้ายของงานจนเข้าเส้นชัยทุกคนก่อนปิดสนาม โดยไม่แสดงตนเพื่อให้การปั่นเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ
กิจกรรมประเภทเน้นการท่องเที่ยว จะเน้นการจัดสนามในต่างจังหวัดที่มีระยะการเดินทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานคร เพื่อการเดินทางกลับหลังจากจบกิจกรรมได้ในวันเดียว ยกเว้นกิจกรรมพิเศษที่ต้องจัดหารถบัสขนาดใหญ่เดินทางไปพร้อมจักรยาน หรือเดินทางด้วยรถไฟ ก็จะประกาศเป็นครั้งคราวไป
*************************************